3 ขั้นตอนการนำ ค่าโฆษณา Facebook
มาใช้เป็นค่าใช้จ่ายบริษัท

การจ่ายเงิน ค่าโฆษณา Facebook นั้น สามารถนำมาเป็น ค่าใช้จ่ายของกิจการ และ เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้
สรรพากรยอมรับ โดยขั้นตอนมีดังนี้

1. เปลี่ยนข้อมูลใน ใบเสร็จ ค่าโฆษณา ให้เป็นข้อมูลบริษัทของเรา

การที่ใบเสร็จค่าโฆษณา Facebook เป็นชื่อของบุคคลนั้น จะไม่สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้ จึงต้องเปลี่ยน เป็นชื่อนิติบุคคลเท่านั้น

2. ยื่นแบบ " ภ.พ.36 " นำส่งภาษีเพิ่มอีก 7% เช่น ค่าโฆษณา ของ Facebook เป็นต้น

ค่าโฆษณาFacebook 100,000 บาท ต้องนำส่งภาษีให้สรรพากร 7,000 บาท ( 100,000 * 7% ) เพราะค่าโฆษณา Facebook ถือเป็นการจ่ายเงินค่าบริการ ที่สถานที่ ตั้งอยู่นอกราชอาณาจักร ทำให้จำเป็น ต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 และ นำส่งภาษีเพิ่มอีก 7% ซึ่งภาษี 7% นี้จะสามารถ นำมาเครมเป็นภาษีซื้อ ได้ด้วย เช่นกัน

3. ดาวน์โหลดใบเสร็จค่าภาษี

เมื่อเรา ได้มีการยื่นแบบ ภ.พ.36 และ ชำระเงินเป็นที่เรียบร้อย กรณีที่ยื่นออนไลน์ ก็สามารถดาวน์โหลด ใบเสร็จ ได้ที่ www.rd.go.th
เพื่อ นำใบเสร็จ มาบันทึกเป็นค่าใช้จ่าย

กรณีที่บริษัท ฯ นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ด้วยแบบนำส่ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม ( ภ.พ.36 ) ตามมาตรา 83 / 6 แห่งประมวลรัษฎากร ภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่นำส่งดังกล่าว ถือเป็นภาษีซื้อตามมาตรา 77/1 (18) (ค) แห่งประมวลรัษฎากร และ ใบเสร็จรับเงิน ที่กรมสรรพากรออกให้ สำหรับการรับชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังกล่าวถือเป็น ใบกำกับภาษีตามมาตรา 86 / 4 แห่งประมวลรัษฎากร โดยบริษัท มีสิทธินำภาษีซื้อดังกล่าว มาหักออกจาก ภาษีขายในเดือนที่มีการนำส่งภาษี

กรณีผู้รับบริการ ในราชอาณาจักรตามข้อ 3 เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน ผู้รับบริการในราชอาณาจักร มีสิทธินำภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ได้นำส่งตามมาตรา 83 / 6 ( 2 ) แห่งประมวลรัษฎากร ไปถือเป็นภาษีซื้อ ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82 / 3 แห่งประมวลรัษฎากรได้ โดยมีสิทธินำไปถือ เป็นภาษีซื้อในเดือนภาษี ที่มีการยื่นแบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ( ภ.พ.36 ) และ ได้รับใบเสร็จรับเงินของ กรมสรรพากร